Category ข่าววันนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าได้ยกเลิกมาตรการการตรวจ เอกสารการได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็มแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว หลังจากภาคการท่องเที่ยว ขอให้ทวน คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังผู้โดยสารจำนวน 269 คน จากสาธารรัฐประชาชนจีน เที่ยวบิน แรก เดินทางถึงไทยแล้วเมื่อ 9 เดือนมกราคม หลังจากจีนเปิดประเทศเมื่อ 8 เดือนมกราคม

นี่เป็น ความเปลี่ยนแปลงล่าสุดของมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นายอนุทิน เผยระหว่างการแถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงบ่าย หลังจากมาตรการชุดใหม่ที่ออกมาเมื่อวันที่ 5 มกราคม ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศอื่น โดยผู้ประกอบการนำเที่ยวต่างชาติจากอังกฤษ กลุ่มสแกนดิเนเวีย เยอรมนี ประเทศฝรั่งเศส แล้วก็รัสเซีย ต่างแสดงความกังวลผ่านมาทาง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต, พังงา และกระบี่

นายอนุทิน กำหนดถึงเหตุที่คณะกรรมการด้านวิชาการ ภายใต้พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีมติยกเลิกการตรวจเอกสารการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติตามมาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะว่ามีความเห็นว่า มีการฉีดยาอีกทั้งในไทยรวมทั้งจีนจำนวนมากแล้ว

รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ทั้งโลก เพราะฉะนั้น การมุ่งเน้นการแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนจะก่อให้เกิดความไม่คล่องตัว

ส่วน เที่ยวบิน ฏแรกที่มาถึงไทย เป็นเที่ยวบิน MF833 สายการบินเซียเหมินแอร์ไลน์

เดินทางจากเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 12.50 น. ที่ผ่านมา โดยมีนายอนุทิน และ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวฯ รมว. คมนาคม ให้การต้อนรับ

นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า มาตรการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนมีความเหมาะสม เน้นใช้มาตรการคุ้มครองป้องกันโควิด-19 โดยใช้กฎเกณฑ์เดียวกันกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นด้วยหลักการเท่าเทียม

ไม่แบ่งแยกจนกว่าจะมีสถานการณ์ต้อง รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข เจาะจงเพราะว่า วันนี้จะมีเที่ยวบินขาเข้าจากจีน 15 เที่ยวบิน รวมนักท่องเที่ยว 3,465 คน คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยผ่านทางท่าอากาศยาน 7-10 ล้านคน

ภาคการท่องเที่ยวและบริษัททัวร์ต่างชาติกังวลอะไรบ้าง

สาระสำคัญในหนังสือที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเสนอต่อรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐที่ปรึกษาว่ากระทรวงกลาโหม

ลงวันที่ 7 เดือนมกราคม ได้สะท้อนข้อคิดเห็นจากบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศโดยเฉพาะในทวีปยุโรป ที่แสดงถึงความกังวลอย่างสูงสุดต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย

บริษัทนำเที่ยวประเทศอังฤษ

การประกาศดังกล่าวดำเนินการฉุกเฉินเกินไป ต้องมีระยะเวลาแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าโดยมากออกเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่อง รวมทั้งอาจไม่สามารถนำใบรับรองการฉีดวัคซีนมา ก็เลยจะมีผลให้ถูกไม่ยอมรับการขึ้นเครื่องบินได้ มีความกังวลว่า ลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไม่สามารถเดินทางได้ แล้วก็บริษัทนำเที่ยว ต้องทำการคืนเงิน ยังไม่มีประกาศอย่างเป็น ทางการจากรัฐบาล

บริษัทจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย

บริษัทนำเที่ยวไม่สามารถแจ้งลูกค้าได้ทันเรื่องการตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีน เนื่องด้วยเป็นการประกาศในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และก็มีผลบังคับใช้ทันทีในวันจันทร์ที่ 9 เดือนธันวาคม
ในส่วนลูกค้าที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่ซื้อแพกเกจทัวร์ไปแล้ว จากประกาศดังกล่าวทำให้ต้องยกเลิกแล้วก็คืนเงินลูกค้า ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ

บริษัทนำเที่ยวประเทศเยอรมนี

มองว่าเป็นการออกเกณฑ์ดังกล่าว สร้างปัญหาแล้วก็ลดความเชื่อมั่นและมั่นใจทางการท่องเที่ยวอย่างมาก มีการยกเลิกจากลูกค้ากว่า 1,000 รูมไนท์ แล้ว หลังมีเรื่องการเปลี่ยนมาตรการดังกล่าว มาตรการดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาระหว่างบริษัททัวร์แล้วก็ลูกค้า ด้วยเหตุว่ามาตรการใหม่ของรัฐบาลไทยไม่เข้าข่ายที่นักท่องเที่ยวจะขอคืนเงินจากสายการบินเมื่อถูกไม่ยอมรับการเดินทาง

บริษัทนำเที่ยวประเทศฝรั่งเศส

ผู้ประกอบการนำเที่ยวมีความไม่พอใจ เนื่องจากระเบียบใหม่นับว่าไม่เข้าข่ายการคืนเงิน ในกรณีที่ผู้โดยสารถูกไม่ยอมรับการเดินทางโดยสายการบิน
บริษัทนำเที่ยวฝรั่งเศสได้จะหาทางทำ Force Majeure ในการยกเลิกการเดินทางมาไทยเพราะเหตุว่าความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลไทย

บริษัทนำเที่ยวจากรัสเซียและกลุ่ม CIS

ผู้ประกอบการนำเที่ยวจากกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (อดีตสหภาพโซเวียต) ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ เนื่องด้วยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ทำสัญญาแบบเช่าเหมาลำล่วงหน้า ขณะที่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวมีทั้งคนที่ได้รับวัคซีนครบและไม่ได้รับวัคซีนส่วนหนึ่ง เมื่อมีมาตรการดังกล่าวได้ก่อปัญหาต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องการหลักเกณฑ์แล้วก็หลักปฏิบัติที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ

มาตรการก่อนหน้านี้ มีอะไรบ้าง

ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม

หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19 หากมีอาการทางเดินหายใจให้เลื่อนเดินทาง แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ

หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ

3 รัฐมนตรีต้อนรับ นทท. จีน เที่ยวบินแรก

เวลา 12.15 น. ของ 9 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีแล้วก็ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข พร้อมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวรวมทั้งกีฬา จะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว จากสาธารณประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาเมืองไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังทางการจีน ทยอยเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 เดือนมกราคม

สำหรับเที่ยวบินจากจีนที่รองนายกรัฐมนตรีและคณะจะให้การต้อนรับในคราวนี้ คือ เที่ยวบิน MF833 เดินทางมาจากเมืองเซี่ยเหมิน มีผู้โดยสารทั้งหมด 269 คน

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา นายอนุทินกล่าวว่า จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรกในเดือน เดือนมกราคม-มี.ค. 2566 มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน

โดยคาดการณ์ถึงตัวเลขในแต่ละเดือน ได้แก่ เดือน เดือนมกราคม 60,000 คน เดือนกุมภาพันธ์ 90,000 คน และ มี.ค. 150,000 คน โดยจะมากขึ้นอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เหตุเพราะเดี๋ยวนี้ยังมีเที่ยวบินจำกัด

มีระยะเวลาในการขอ ทำหนังสือเดินทางรวมทั้งการขอวีซ่า รวมทั้งรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองและก็เป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ

BMW ซีรี่ย์3 เผยโฉมรถต้นแบบ BMW i Vision Dee ครั้งแรกในโลกที่งาน Consumer Electronics Show (CES) 2023 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่า เป็นเวอร์ชันต้นแบบของ “ซีรี่ย์ 3” เจเนอเรชันถัดไป ที่มาพร้อม ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100%

BMW i Vision Dee เป็นรถยนต์ซีดาน ขนาดกลาง (Mid-size) ที่มีรูปลักษณ์อันล้ำสมัย โดยที่ Dee ย่อมาจากคำว่า “Digital Emotional Experience” ที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน แล้วก็รถยนต์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

ชูไฮไลต์ด้วยเทคโนโลยี BMW Head-Up-Display ที่สามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ ทอดยาวตลอด ความกว้างของกระจกบังลมหน้า แทนการใช้หน้าจอปกติ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กล่าวว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะถูกนำไปจัดตั้ง กับรถโปรดักชัน ที่ใช้แพล็ตฟอร์ม NEUE KLASSE สำหรับวางขายจริง ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

BMW ซีรี่ย์3 เทคโนโลยีแสดงข้อมูลแบบ HUD

ดังกล่าวปฏิบัติการร่วมกับ ระบบสั่งงานแบบ BMW Mixed Reality Slider ที่อาศัยเซ็นเซอร์ บนแผงคอนโซล เพื่อใช้สำหรับในการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ HUD ผ่านการสัมผัสด้วยปลายนิ้ว ไม่ว่าจะ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่, คอนเทนท์ด้านระบบสื่อสาร รวมทั้งเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม หรือ Augmented Reality เป็นต้น

นอกเหนือจากนั้น คนขับขี่แล้วก็ผู้โดยสาร ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ แบบดิจิทัลของ BMW i Vision Dee ได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ผ่านองค์ประกอบทั้งด้านกราฟิก, ไฟส่องสว่าง และเสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ

อย่างเช่น ไฟหน้าและกระจังหน้าไตคู่แบบปิดทึบ ถูกพัฒนาให้ มีลักษณะเป็น “Phygital” (เกิดขึ้นจากการรวมกันของคำว่า Physical และ Digital) ที่มีลักษณะเหมือนหน้าจอ สำหรับตอบโต้กับมนุษย์ หรือแสดงอารมณ์ในเวลานั้นได้

ตัวถังข้างนอกของ BMW i Vision Dee ยังสามารถเปลี่ยนสีได้เองโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยเทคโนโลยี E Ink คล้ายกับที่เจอใน BMW iX Flow ซึ่งเคยเปิดตัวในงาน CES 2022 ครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้บีเอ็มดับเบิลยู ได้เพิ่มระดับความสามารถให้ปรับเปลี่ยน สีตัวถังได้ถึง 32 สี

บนพื้นที่ที่ถูกแบ่ง แยกออกเป็นทั้งหมด 240 ส่วน (จากเดิมที่มีเฉพาะสีดำและสีขาว ที่สามารถผสมกัน กลายเป็นสีเทาได้อีกหลายเฉด) ส่งผลให้คนขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ ตามใจชอบในเวลาเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น

ภายในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้

ยังถูกออกแบบให้ลดการใช้ วัสดุที่ไม่จำเป็น พร้อมกันไปกับการลด จำนวนปุ่มควบคุม แล้วก็ตัดหน้าจอแบบเดิมออกไป ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ระบุว่าจะช่วยให้คนขับขี่ สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ ดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งมาพร้อมพวงมาลัย ออกแบบแปลกตา ที่ติดตั้งก้านแนวตั้ง บริเวณกึ่งกลางของพวงมาลัย

ก่อให้เกิดจุดสัมผัส ที่จะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อผู้ขับขี่ใช้ปลายนิ้ว สัมผัสแค่นั้น ทั้งนี้การออกแบบดังกล่าว ยังช่วยสนับสนุนแนวความคิด “มืออยู่บนพวงมาลัย, ตาจ้องไปยังถนน” เพื่อความปลอดภัยในการขับรถสูงสุดนั่นเอง

งานวิศวกรรมสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อมแบตเตอรี่ ที่มีความหนาแน่นขึ้น 20% ชาร์จเร็วขึ้น 30% แล้วก็วิ่งไกลขึ้น 30% นอกจากนี้ในเวอร์ชั่น M ยังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ถึง 4 ลูกเพื่อรองรับ แบตเตอรี่แบบ Solid State อีกด้วย

แม้ว่าจะเป็นเพียง รถยนต์ต้นแบบเท่านั้น แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่รายละเอียดบางส่วน ที่จะประยุกต์ใช้ในรถขายจริง ตามนโยบาย NEUE KLASSE ทั้งกระจกหน้าต่าง แบบใหม่ จะประยุกต์ใช้ใน i3 รุ่นถัดไป, งานวิศวกรรมที่จะเริ่ม ใช้ใน 3-Series Sedan รวมทั้ง iX3 โฉมใหม่ ได้มีแผนที่ จะผลิตในโรงงานใหม่ Debrecent ประเทศฮังการี ภายในทศวรรษนี้ (ประมาณ ปี 2030) ตามมาด้วยในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีในปีถัดไป

ดังนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า BMW i Vision Dee จะถูกต่อยอดกลายเป็น 3 Series ขุมพลังไฟฟ้า 100% ในอนาคต ซึ่งจะถูกเปิดตัวในปี 2025 ที่จะถึงนี้

News ข่าวรถยนต์รถใหม่เปิดตัว BMW i Vision Dee รถต้นแบบไฟฟ้า แห่งอนาคตในงาน CES 2023

BMW เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ BMW i Vision (BMW i Digital Emotional Interaction Concept Car (Dee)) ในงานมหกรรมรถยนต์ International Consumer Electronics Show (CES) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 5 – 8 เดือนมกราคม 2023

BMW i Vision Dee เปิดตัวครั้งแรกในโลก โดยใช้แนวคิดการปฏิสัมพันธ์ ทางอารมณ์แบบดิจิทัล BMW i เป็น Digital Emotional Experience สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และก็ยังชี้ให้เห็นวิสัยทัศน์ของ BMW Group ที่มุ่งมั่นการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต ภายใต้แนวความคิด “less is more”

BMWiVisionDee Concept อีกหนึ่งสีสันของบูธ BMW ข้างในงาน CES 2023 ตัวรถยนต์ได้รับการออกแบบ ในรูปทรงซีดานกล่อง องค์ประกอบการออกแบบ ที่โดดเด่นหลายแบบของ BMW ที่ได้รับการปรับแต่ง

รวมทั้งกระจังหน้ารูปไต ไฟหน้าทรงกลมคู่ แล้วก็รอยหยักแบบ Hofmeister ล้ออัลลอยสีเขียวขนาดใหญ่ ไฟท้สยแบบ LED ดิจิตอล กระจกรอบคันขนาดใหญ่ สร้างมุมมองได้กว้างขึ้น ไร้มือจับประตูข้างนอก

BMW Group เปิดตัวเทคโนโลยี E Ink หรือการเปลี่ยนโทน สีบนผิวตัวถัง โดยสามารถสร้างสี ได้มากถึง 32 สีผ่านฟิล์ม กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมทั้งตัว รถยนต์ภายนอก

ปรัชญาการออกแบบ ที่เรียบง่ายนี้ ยังคงอยู่ในห้องโดยสาร เน้นการใช้งานมินิมอล แต่ว่าจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี BMW ได้นำระบบ Head-up Display ขั้นสูงของ BMW มาใช้ พร้อม BMW Mixed Reality Slider ที่สามารถฉายเนื้อหา ให้ครอบคลุมความกว้างทั้งหมด ของกระจกบังลม

สามารถแสดงข้อมูลบนพื้นผิวที่ใหญ่ เท่าที่จะเป็นได้ กระจกบังลมหน้าจะทำหน้าที่ เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลเดียว สำหรับเพื่อการโต้ตอบกับทุกคนภายในห้องโดยสาร

Adrian van Hooydonk หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BMW Group พูดว่า “BMW i Vision Dee แสดงให้เห็นการออกแบบดิจิทัล ที่เข้ากับชีวิตประจำวัน และเป็นเพื่อนร่วมทาง ที่ไว้ใจได้ พร้อมมอบประสบการณ์ ที่คุ้มค่า ทำให้มนุษย์และเครื่องจักรใกล้ชิดกันเพิ่มมากขึ้น

อีกไม่นานเกินรอก็จะได้รับชมซีรีส์ส่งท้ายปีอย่าง The Glory กันแล้ว ด้วยเหตุว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแค่จะก่อให้ผู้ชมตื่นเต้นไปกับไลน์อัปนักแสดงคุณภาพที่ขนทัพมาอย่างแน่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่พล็อตเรื่องที่กำลังจะถูกถ่ายทอดก็น่าสนใจและก็น่าติดตามเป็นอย่างมากเหมือนกัน ซึ่งปัจจุบันทางด้านของ นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้มีโอกาสออกมาเผยถึงที่มาและก็แรงบันดาลใจที่ทำให้สร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องดังกล่าวนี้ขึ้นมา

ภายในงานแถลงข่าวซีรีส์ The Glory ที่ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เดือนธันวาคมที่ผ่านมา

เมื่อถูกถามถึงที่มาแล้วก็แรงบันดาลใจ ที่ทำให้เขียนบทซีรีส์นี้ขึ้นมา ทางด้านของ นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้เล่าถึงเหตุผลนี้ อย่างน่าสนใจว่า “ฉันเป็นแม่ซึ่งมีลูกสาว ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน และจะขึ้นมัธยมปลายปีที่ 2 ในปีหน้าค่ะ การใช้ความรุนแรงในโรงเรียน จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับฉัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยเช่นกันค่ะ เพราะในขณะที่เรากำลังคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ ฉันก็เกิดกังวลขึ้นมาว่าลูกสาวฉันจะถูกวิจารณ์ที่โรงเรียนเพราะฉันหรือเปล่า แต่ลูกสาวตอบกลับมาว่า ไม่หรอก “แม่ไม่ได้ดังขนาดนั้นนะ” นั่นเป็นเรื่องแรกที่ทำให้ฉันช็อก แล้วลูกก็ถามฉันต่อว่า “แม่จะรู้สึกแย่กับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการที่หนูเป็นคนกลั่นแกล้งรังแกคนอื่น หรือการที่หนูโดนรังแกเสียเอง”

ซึ่ง นักเขียนบทคิมอึนซุก ก็ได้เผยอีกว่ากล่าวเนื่องจากว่า

คำถามข้างต้นนี้เองที่ทำให้ เธอเริ่มเขียนบท ซีรีส์ TheGlory นี้ขึ้นมา โดยคุณได้เล่าว่ากล่าว “คำถามนั่นเป็นอีกเรื่องที่ ทำให้ฉันตกใจมาก ๆ ค่ะ และก็ในขณะเดียวกันนั้น ความนึกคิดมากมาย ก็พรั่งพรูเข้ามาในหัว จนฉันตัดสินใจ เปิดแล็ปท็อป แล้วเริ่มเขียนบท เรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ ฉันครุ่นคิดพิจารณาอยู่นานว่า จะตั้งชื่อเรื่องว่า อะไรดี จึงได้ไป อ่านบทสัมภาษณ์ของเหยื่อ ผู้คนจำนวนมากที่เป็นเหยื่อความร้ายแรง ในโรงเรียน รวมทั้งมารู้ทีหลังว่าเหยื่อ โดยมากไม่ เคยต้องการ คำพูดขอโทษ เป็นเงินทอง หรือ สิ่งของอะไรก็แล้วแต่ถ้าหากแต่ต้องการ คำขอโทษ จาก ใจจริง มากกว่า

ฉันจึงสงสัยว่า คำกล่าวขอโทษที่จริงใจ พวกนั้นจะก่อให้ ได้อะไรดีขึ้นมา แต่สุดท้าย ก็ใส่ใจได้ว่า เขาไม่ได้ ต้องการได้คำพูดขอโทษ แต่มัน เสมือนเป็น การทวงคืน สิ่งที่ พวกเขาได้สูญเสีย ไป อย่าง ได้แก่ เกียรติแล้วก็ศักดิ์ศรี

ในขณะ ที่ โดนทารุณมากกว่า คำกล่าวขอโทษที่ออกมา จากใจ จะนำ พวกเขากลับ ไปยัง ตอนเวลา ก่อนที่ พวกเขา จะโดนทำร้าย ด้วยเหตุว่าเหตุนั้น ฉันก็เลยตัดสินใจ ตั้งชื่อ เรื่องว่า TheGlory ด้วย ความหวัง ที่ต้องการจะ ให้ตัวละคร อย่าง ดงอึน ฮยอนนัม และยอจอง ได้กลับไปสดใส และก็มีเกียรติเสมือนตอนก่อนที่ พวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อ ของความร้ายแรง ค่ะ

เป็นที่เข้าใจกันดีว่า แต่ละบทบาท ที่นักแสดง กำลังจะได้รับในซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายความสามารถ แล้วก็ยังมีรายละเอียดมากมายที่ต้องให้ความเอาใจใส่

ซึ่งเมื่อถูกถามถึงเสน่ห์ของแต่ละตัวละคร ทางด้านของ ซงฮเยคโย ตัวละครที่บทบาทสำคัญในซีรีส์เรื่องนี้

ก็ได้เผยว่า “ดงอึน เป็นตัวละครที่ มีอดีตอันแสนจะเจ็บปวดเพราะเหตุว่า ความร้ายแรงในโรงเรียน ตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ
อีกทั้งอาจารย์และตำรวจก็ไม่แม้แต่จะยื่นมือมาปกป้องเธอ เธอก็เลยตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าเพราะเหตุใดต้องเป็นเธอ ที่ต้องตาย เพราะว่าพวกคนที่รังแกเธอต่างหากที่ต้องได้รับบทลงโทษ

นั่นจึงกลายเป็นจุดกำเนิดของการชำระแค้นค่ะ นับเป็นเรื่องยากที่จะสื่ออารมณ์ของดงอึนซึ่งต้องทนทุกข์ทรมานจากอดีตอันแสนทารุณโหดร้าย และก็ต้องประจันหน้าต่อสู้กับผู้ที่กระทำผิด แต่แทนที่จะแสดงภาพลักษณ์ที่อ่อนแอ ฉันต้องการที่จะให้ผู้ชมมองเห็นด้านที่เข้มแข็งแทนค่ะ อยากให้มีความเห็นว่าฉันเป็นดงอึนที่แข็งแกร่งมากกว่าดงอึนในวัยเด็ก ฉันจึงจุดโฟกัสจุดนั้นเป็นพิเศษค่ะ”

ซึ่งทางด้านของ อีโดฮยอน ก็ได้เล่าถึงตัวละครที่เจ้าตัวได้รับเช่นเดียวกันว่า

“ยอจอง เป็นตัวละครที่ดูด้านนอกนั้นสดใสแต่ภายในมีอะไรซ่อนอยู่ ต้องการที่จะให้ไปติดตามดูกันเองในวันที่ 30 เดือนธันวาคมนี้ครับ”

โดย อีโดฮยอน ก็ได้เล่าถึงการจัดแจงเพื่อถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาให้ได้ดีมากที่สุดว่า
“ตอนอยู่ในกองถ่ายผมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้กำกับอยู่เสมอครับ
ผมใส่ใจว่าการสื่ออารมณ์ของผมนั้นมีผลต่อการเล่าเรื่องในฉากต่อ ๆ ไปด้วย ผมต้องขอขอบคุณผู้กำกับที่มอบโอกาสให้ผมได้ลองถ่ายทอดอารมณ์ในหลากหลายรูปแบบ ผมก็เลยพยายายามเตรียมพร้อมแล้วก็ฝึกซ้อมหลายหน ด้วยเหตุว่าจะได้หาแนวทางที่เหมาะสมในการแสดงมากที่สุดครับ”

สุดท้ายนี้ ทางด้านของ ซงฮเยคโย ได้เปิดเผยความรู้สึกที่เธอได้มาเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ร่วมไปกับทีมงานและนักแสดงทุกท่านว่า

“ฉันเคยมีโอกาสร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกในผลงานก่อนหน้านี้ค่ะ ต้องขอบคุณนักเขียนบทที่เชื่อใจแล้วก็มอบบทตัวละครใน The Glory อีกรอบค่ะ ฉันมีความสุขมาก ที่ได้เจอกับตัวละครดงอึน ผลงานเรื่องนี้ เป็นผลงานที่ทำให้รู้สึกว่า การที่ฉันได้ทำงาน กับคนที่รักช่าง เป็นเรื่องที่มีความสุขเหลือเกินค่ะ อีกอย่างฉันเป็นแฟนคลับของผู้กำกับอันกิลโฮแล้วก็อยากร่วมงานกับเขามานานแล้ว แนวของซีรีส์เรื่องนี้และบทของตัวละครดงอึนเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับฉัน แต่เป็นเพราะว่าคำแนะนำของผู้กำกับ ฉันเลยหาแนวทางในการแสดงได้ไวขึ้น ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

The Glory เป็นซีรีส์แนวดราม่า

นำทีมถ่ายทอดเรื่องราวโดย ซงฮเยคโย อีโดฮยอน อิมจียอน ยอมฮเยรัน พัคซองฮุน รวมทั้ง จองซองอิล บอกกล่าวเรื่องราวเกี่ยวกับ มุนดงอึน (รับบทบาทโดย ซงฮเยคโย) นักเรียนสาวมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่เคยเป็นหนึ่งในเหยื่อการใช้กำลังในโรงเรียน รวมทั้งมักถูกรังแกจิตใจอย่างเจ็บอยู่หลายครั้ง

จนเธอต้องลาออกจากโรงเรียนแห่งนั้น รวมทั้งเมื่อระยะเวลาผ่านไป เธอก็ได้ตัดสินใจกลับมาล้างแค้นอีกครั้ง ด้วยการสมัครไปเป็นครูประจำชั้นของลูก ๆ ที่เคยรังควานเธอไว้ในวัยเด็ก

บรรยากาศ บนอินสตาแกรม @notevises โน้ต วิเศษ อบอวลไปด้วยความรัก และก็ความหวานละมุน แบบสุด ๆ โดยเฉพาะเมื่อใกล้ เข้าสู่พิธีมงคลสมรส ก็ยิ่งดูเหมือนจะ มีภาพโมเมนต์โรแมนติก ถูกปล่อยออกมา ให้ได้ฟินกันอย่างตลอด

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คลิปวิดีโอพรีเวดดิ้ง ที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตน และก็ไลฟ์สไตล์ ของคู่แต่งงาน แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด และก็ โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังในด้านของโทนภาพ โลเคชั่น รวมถึงวิธีการ แสดงความรักความห่วงใย ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น รวมทั้งเรียบง่าย แต่ว่าก็มีความ เป็นคนรักสายลุย ไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากแล้วทางฝั่ง ของไฮโซหนุ่ม ยังได้แนบแคปชั่นภาษาอังกฤษ ซึ่งมีรายละเอียดพูดถึง อีกสเต็ปในชีวิต ของเจ้าตัวแล้วก็นางเอกสาว ที่จะครองคู่ร่วมกัน ด้วยว่า “Our journey begins soon” โดยมีแฟน ๆ แล้วก็เพื่อนพ้องคนดัง ทั้งยังในวงการธุรกิจ แล้วก็แวดวงบันเทิง เข้ามาร่วมกดไลก์ รวมทั้งแสดงความยินดีกัน อย่างล้นหลามเลยทีเดียว

โน้ต วิเศษ พา แพทริเซีย ลองชุดใส่แต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวตื่นเต้น ในความสวย

ถึงเวลาแต่งงานในตอนธันวาคมในปีนี้แล้ว ทำเอาคู่รัก สุดหวานอย่าง โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ กับนางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ตื่นเต้นกันสุด ๆ ล่าสุดนั้น โน้ต ก็ได้ควงว่าที่เจ้าสาว แพทริเซีย ไปลองชุดเจ้าสาว โดยว่าที่เจ้าบ่าวได้เปิดเผย คลิปโมเมนต์น่ารัก ๆ ลง TikTok ส่วนตัว

โดยเขียนแคปชั่นว่า “ว่าที่เจ้าสาวของผม” โดยในคลิปดังกล่าว โน้ต ได้เขียนเล่าเรื่องราวระหว่างพา แพทริเซีย ไปลองชุดแต่งงาน บอกว่า ตื่นเต้นมาก ชุดสวยเต็มไปหมด ถูกใจทุกชุดเลย จนกระทั่งเลือกไม่ถูก

“วันนี้พามาดูน้อง ลองชุดเจ้าสาวกันครับ ผมนี้ตื่นเต้นมากเลย และก็ขอแนะนำ แพลนเนอร์ของเราเป็นคุณแป้ง ลองกันหลายชุดเลย เฮฮากันมากครับ เลือกแนวกันไม่ถูกเลย ผมถูกใจเกือบทุกชุดเลยครับ จะเป็นชุดไหน ลองติดตามกันวันจริง ได้เลยนะครับ แอบให้ดูกันเท่านี้ก่อน ขอตัวก่อน”

ซึ่งแต่ละชุดที่ โน้ต เปิดเผยให้เห็นนั้น สวยมากจริง ๆ แถมเจ้าสาวเอง ขนาดยังไม่แต่งหน้าแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะใส่ตัวไหน ชุดไหนก็สวยไปหมด ทั้งแฟนคลับ ที่ติดตามต่าง ก็เห็นได้ถึงความรัก ที่ทั้งสองมีให้กัน ทำเอาแต่ละคน ถึงกับพูดว่า อยากให้ถึงงานแต่งงานวันนั้นเร็ว ๆ

“แพทริเซีย-โน๊ต” ฉลองปาร์ตี้สละโสด ชื่นบานและก็ซึ้งมาก “แพทริเซีย กู๊ด” นางเอกสาวช่อง 3 ควงว่าที่เจ้าบ่าว “โน๊ตวิเศษ” สังสรรค์ปาร์ตี้สละโสด พร้อมหน้าครอบครัว และก็คนภายในวงการบันเทิง ว่าที่เจ้าสาวซึ้ง ร้องไห้ตาแดงก่ำ ด้วยความซาบซึ้ง ดีใจที่มีวันนี้ ด้านโน้ต ยิ้มแป้นทั้งงาน คลั่งรักสุด ๆ ไปเลย

ต้องบอกว่าชื่นบาน แล้วก็น่ารักทีเดียว สำหรับงานปาร์ตี้สละโสด ของโน้ตกับแพทริเซีย ที่คนในวงการบันเทิง ได้ไปร่วมงานกันแน่น อีกทั้งครอบครัวแล้วก็ผู้จัด รวมไปถึง ตู่ ปิยวดี มาพร้อมสามี มาวิน ทวีผล, เมย์ เฟื่องอารมย์ ,ไก่ วรายุฑ ร่วมด้วยคนภายในแวดวงบันเทิง ที่มาร่วมยินดีกับแพทกับโน้ต ซึ่ง บรรยากาศเป็นไป อย่างร่าเริง แล้วก็ซาบซึ้ง

แพทริเซียถ่ายรูปออกมา น้ำตาคลอตลอด ซึ่งทั้งคู่มีแพลนวิวาห์ กันในธันวาคมปีนี้ ซึ่งจะต้องกล่าวว่าเป็นงานมงคล ส่งท้ายปีคนบันเทิงอีกคู่ ที่สีชมพูมาก ในงานงานเลี้ยงสละโสด

โน๊ตวิเศษเปิดเผยฤกษ์แต่ง แพทริเซีย ปลายปีนี้ พร้อมมีลูกในทันที พร้อมย้อนเล่าโมเมนต์ขอแต่งงาน

สำหรับคนรักสุดหวาน อย่างหนุ่มโน๊ต แล้วก็นางเอกสาว แพทริเซีย กู๊ด ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำเซอร์ไพรส์ คุกเข่าขอแต่งงาน กันไปเมื่อตอนเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันเจอหนุ่มโน๊ต ก็ได้อัปเดตถึงฤกษ์แต่งงาน พร้อมย้อนเล่าโมเมนต์ ขอแต่งงานโดยเผยว่า

วันนี้น้องแพทมาให้กำลังใจด้วย

“ใช่ครับ ก็ขอบคุณน้องมากเลย ที่ยังอุตส่าห์แวะมาให้กำลังใจครับ เข้าก็มีแจ้งมาก่อนว่าจะมา ไม่เช่นนั้นผมจะเซอร์ไพรส์ ยังตื่นเต้นอยู่ คือเขาก็เคลียร์คิวมาครับ เนื่องจากว่าเราแจ้งเขาล่วงหน้า ความรู้สึกในเวลานี้ตื่นเต้นมากจริง ๆ พวกพี่ ๆ ก็คงจะเห็นได้ อย่าที่พูดว่า ถึงจะเห็นผมอยู่ในสื่อบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำงานตรงนี้ และก็คงจะไม่ถนัด ที่จะออกมาพูดกับทุกคน”

น้องแพทพูดว่าเราเตรียมตัวมาเยอะมากวันนี้

“ก็จะต้องเตรียมพร้อมครับ คือตื่นเต้น แต่ว่าเรื่องการตอบตำถาม ก็มิได้กังวลมากครับ โดยมากจะเป็นเรื่องของการ จะต้องมายืนต่อหน้า ทุกคนแบบนี้ครับ วันนี้ก็ตอบได้ เท่าที่ตอบได้ครับ”

เมื่อกี้นี้แพทบอกว่าจะไปลองชุด ใช่ชุดเจ้าสาวไหม

“อันนี้ผมไม่แน่ใจว่า เป็นชุดอะไรครับ แต่น่าจะเป็นหนึ่งในงานแต่งครับ ขอน้องไว้แล้ว บอกได้ครับ ปัจจุบันนี้มีความคืบหน้าแล้ว ก็เตรียมตัวอยู่ มีฤกษ์แล้วครับ ในปีนี้ ก็จะเรียนเชิญทุกคน อย่างเป็นทางการอีกรอบด้วยครับ อีกไม่กี่เดือนแล้ว คือจริง ๆ ฤกษ์เราได้ปีนี้เลย ไม่งั้นจะเป็น 2024 ก็เลยคิดว่า เอาเป็นปีนี้เลยแล้วกัน วันจะแจ้งอีกครั้ง แต่ราว ๆ เดือนธันวาคมครับ”

คอนเซ็ปท์ให้แพทเลือกได้เต็มที่เลยใช่ไหม

“ใช่ เรามีแพลนเนอร์ แต่ว่ามีอะไรก็อยากให้น้องเคาะเลย โดยมากหากเขาเคาะได้ ผมก็โอเค ส่วนเรื่องธีมเดี๋ยว แจ้งอีกครับ ให้สิทธิ์น้องเต็มที่ ให้เขาตัดสินใจดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องเถียงกันครับ เรื่องความคิดไม่ตรงกัน ไม่ค่อยมีครับ จริง ๆ ก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะส่วนใหญ่ ความคิดหรืออะไรอย่างนี้ มันค่อนข้างจะตรงกันหมด เวลานี้ก็ได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ อยู่ในขั้นตอนอยู่ ก็ตื่นเต้นครับ”

ย้อนกลับไปโมเมนต์ขอแต่งงาน

“คือเราตั้งใจว่าอยากจะเป็นเซอร์ไพรส์ แล้วด้วยการที่ผมเรียนรู้ ว่าน้องเขาเป็นคนยังไง ก็คิดว่าอยากจะ ทำให้มันเป็นธรรมชาติที่สุด ก็เลยต้องหาโมเมนต์ ที่มันเซอร์ไพรส์จริง ๆ จริง ๆ ต้องการจะเล่าว่า เป็นครั้งที่สองสำหรับการขอ ไม่ใช่ว่าเป็นการขอครั้งที่สองนะครับ

คือว่าเกือบจะขอเขาแล้วรอบหนึ่ง เดี๋ยววันไหนจะแชร์ภาพให้ดู เป็นให้เพื่อน ๆ ดูทุกคนหัวเราะมาก คือมันเป็นโมเมนต์ที่ไม่ได้เฟล แต่ว่าเป็นผมจะขอแล้วมันคนตื่นเต้น เลยอะ โอเค ไม่ใช่ครั้งนี้ คือเป็นในทริปเดียวกัน

แต่ว่าจังหวะมันไม่ดี ตอนนี้ ผิดจากที่ตั้งใจไว้นิดหนึ่ง ต้องการที่พูดว่าพออะไร ที่มันไม่ใช่เซอร์ไพรส์ หรือจังหวะมันมิได้ ก็เลยหยุดไว้ก่อน แล้วก็มีโมเมนต์อีกรอบครับ”

พร้อมใช้ชีวิตคู่

“ใช่ครับ อันนี้ก็ต้องการให้ถามเพิ่มวันจริงมากกว่า ประเดี๋ยววันนั้น ไม่มีอะไรพูด ก็อยากจะมานั่งกับน้องแล้วบอก ส่วนเรื่องสถานที่ ก็ได้แล้วครับ เดี๋ยวแจ้งอีกทีครับ”

สภาพอากาศวันนี้ ทั่ว ไทย อากาศเย็น ยอดดอยหนาวจัด 3 องศา กรุงเทพฯต่ำสุด 19 องศา ในขณะที่ใต้ยังมีฝน

วันที่ 15 ธันวาคม 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชม.ข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงปกคลุมไทยตอนบน

ทำให้บริเวณดังกล่าวก็ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย

สำหรับมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าว ไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้

นอกจากนี้ ช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. 2565 บริเวณที่มีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่กำลังแรงอีกรอบจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมไทยตอนบน

ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า
ตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณสงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ไทย เตรียมหนาวอีก! กรมอุตุนิยมวิทยา เผย มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังแรง มาอีก 17-20 ธ.ค.

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเผย อุณหภูมิเริ่มลดลงแล้ว กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ต่ำสุด 18.9 มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังแรง มาอีก 17-20 ธันวาคม 65 ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนคลื่นลมแรง

วันนี้ (14 ธันวาคม 65) เวลา 09.30 น. ดร. ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผย ณ ศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า วันนี้อุณหภูมิของไทยโดยเฉพาะทางตอนบนของประเทศลดลงเนื่องมาจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 1- 2 วันนี้ (14-15 ธันวาคม 65) อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง

เริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ลดลง 4-6 °ซ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมไปถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างนั้นมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนของคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุดของวันนี้ที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ณ สถานีตรวจอากาศสุวรรณภูมิ วัดได้ 18.9 องศาเซลเซียส ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็น ซึ่งประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลจะได้สัมผัสอากาศเย็นสบายในช่วงเช้าแบบนี้ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ จากนั้นอุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ที่มีกำลังแรงเข้ามาอีกในช่วงก่อนถึงปีใหม่ (17-20 ธันวาคม 65) ทำให้ไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส (พื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ยอดดอยและยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 °ซ) สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 °ซ คาดว่าอุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส

บริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากว่าลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้นั้นมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 ม. บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 ม. ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธ.ค. 65

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำเพิ่มว่า ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสาร และประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ เพราะว่านอกจากจะได้เตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงแล้ว ในภาคใต้ยังต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มด้วย โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามที่สายด่วน หมายเลข 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอนแก่น หนาวมาก เสื้อกันหนาวมือ2-ผ้าพันคอขายดี เริ่มต้นตัวละ 39 บาท

ขอนแก่น หนาวมาก เสื้อกันหนาวมือ2 ผ้าพันคอขายดี เริ่มต้นขายที่ราคาตัวละ 39 บาท ไปจนถึงตัวละ 100 บาท

ที่ตลาดสดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีประชาชนจำนวนมาก ต่างพากันเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองกันมากขึ้น เนื่องจากในขณะนี้สภาพอากาศทั่วทั้ง ขอนแก่น ได้หนาวเย็น ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีของพ่อค้าแม่ค้า ที่ต่างนำเสื้อกันหนาวมือสองหลากหลายรูปแบบ มาตั้งโชว์ให้กับลูกค้าได้เลือกซื้อ

นางสาวจิราภร คล้ายเจียว อายุ 35 ปี เจ้าของร้านเสื้อกันหนาว กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ในช่วง 1-2 วันนี้ ในช่วงนี้คนเริ่มออกมาเลือกซื้อเสื้อกันหนาวกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนมากจะขายดีทั้งเสื้อเด็กและผู้ใหญ่ แต่คนส่วนใหญ่จะเลือกที่เป็นเสื้อแขนยาวผ้าบางจะขายดี เพราะสามารถใส่ได้ทุกฤดูกาล ทั้ง กันแดดและกันหนาว เริ่มต้นตัวละ 39 บาท ไปจนถึงตัวละ 100 บาท

“ตลาดแห่งนี้ถือเป็นตลาดที่มีเสื้อผ้าหลากหลายให้เลือกซื้อ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดี และมีหลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงจนสามารถซื้อฝากญาติที่ได้ เพียงแต่ต้องนำไปซักเพื่อทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อนใส่เพื่อสุขอนามัยแต่เสื้อผ้าที่นำมาขายทางร้านได้นำไปซักทำความสะอาดอบฆ่าเชื้อเรียบร้อยหมดแล้วลูกค้าซื้อไปก็นำไปซักอีก 1 รอบก็สามารถนำมาใส่ได้เลย”

สำหรับสาวก Apple คงจะลุ้นกัน ใหญ่ว่าปี 2023 นั้นจะมี iPhone 15 ออกมา โดยคาดว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในรุ่นสูงสุด ที่มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว สเปกเรือธงโดยคาดว่า อาจจะมีการเปลี่ยนชื่อ มาเป็น iPhone15 Ultra เนื่องด้วย จะเป็นรุ่นที่ ก้าวกระโดดจาก iPhone 14 Pro มากพอสมควร

ดีไซน์ใหม่ของ iPhone15 Ultra ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น สิ่งแรกที่มีการพูดถึง คือการออกแบบ โดยคาดว่า iPhone15Ultra จะได้ออกแบบ ตัวเครื่องที่มีลักษณะโค้งมน

และด้านหลังเป็นกระจก ที่มีลักษณะคล้ายกับ MacBook Pro รองรับ MagSafe โยดคาดว่า ขอบตัวเครื่อง จะทำจาก ไทเทเนียม และกระจกด้านหลังแกร่งทนต่อการ ตกกระแทกได้ดียิ่งกว่าเดิม

แต่ว่ากล้องยังคง วางตำแหน่งที่เดิม อาจเปลี่ยนแปลงโดยการ เพิ่มขอบให้โค้งมนมากขึ้นนั่นเอง

iPhone 15 ข้อนี้เด็ดเพราะว่าคาดว่ามันจะมากับ USB-C

และเป็น Thunderbolt ในรุ่นต่อไปคาดว่า iPhone15 อาจได้เป็นรุ่นแรก ที่ใช้ช่องเสียบ USB-C จากที่กฎหมายจากสหภาพยุโรป ได้กล่าวว่าผู้ผลิต Smart Phone ต้องใช้ช่องเสียบเป็น USB-C

ทั้งหมดก่อนวันที่ 28 ธ.ค. 2024 ที่จะถึงนี้ แต่ว่าบางกระแส กล่าวว่าอาจไม่มีช่องเสียบใด ๆ เน้นระบบชาร์จไฟไร้สาย ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดู กันต่อไป เนื่องจากว่ายังไม่มีอะไร ยืนยันได้ว่า iPhone 15 จะใช้ช่องเสียบแบบไหน ทั้งนี้ Ming-Chi Kuo เผยว่า iPhone15 Pro จะใช้ได้ใช้ USB-C และรองรับ Thunderbolt แน่นอน

กล้องหน้าให้มาแบบคู่

ปกติกล้องหน้าของ iPhone จะเป็นกล้องเดียว และก็อีกเลนส์จะเป็นระบบ Depth Sensor ไว้ทำงานร่วมกับระบบ Face ID แต่ว่าก็มีความเป็นไปได้ว่า iPhone15Ultra จะได้กล้องหน้าคู่ โดยพื้นที่ของ Dynamic Island จะมีความกว้างมากกว่าเดิม โดยคาดว่า iPhone15 ทุกรุ่นจะได้หน้าจอแบบ Dynamic Island ทุกรุ่นแม้ว่า จะมีข้อมูลเผยว่าระบบ Face ID จะซ่อนในหน้าจอก็ตาม

เลนส์ซูมกำลังมากขึ้น ดีขึ้นเด็ดขึ้น

ข่าวเรื่องการใส่กล้องซูมแบบ Periscope นั้นก็มีลือมาหลายครั้งอยู่เหมือนกัน ล่าสุด มีข่าวออกมาว่า iPhone15 Ultra บางครั้งก็อาจจะเป็นรุ่นเดียว ที่ได้กล้องซูมแบบ Periscope

ทั้งนี้ถ้าใครอยากได้เลนส์ Periscope ใส่รุ่นปกติ อาจจะต้องคอยใน iPhone 16 Pro ก็เป็นได้

เลนส์ของกล้อง iPhone15 Pro บางครั้งก็อาจจะพัฒนาให้เป็นชั้น ๆ และสามารถเลือก การซูมได้เหมาะสมมากขึ้น แต่ว่าอย่าลืม ว่าเทคโนโลยี Periscope ค่ายอื่น ๆ เขาใช้มาก่อนหน้านี้ ที่รองรับการซูมได้สูงสุด 10 เท่า และซูมไกลสุดที่ 100เท่า มาแล้ว

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ (จากข่าวลือทั้งหมด) ข้อมูลของ Ming-Chi Kuo ได้กล่าวมาว่า iPhone15 ก็อาจจะเป็นการเลือก ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ แต่ว่าสุดท้ายประเด็นนี้ อาจจะถูกปัดตกไป เนื่องจากว่า Apple มั่นใจว่าระบบ Face ID นั้นดีอยู่แล้วก็เป็นไปได้ และก็รวมถึงปุ่มด้านข้างแบบ Solid-State (ฝั่งไปกับขอบเครื่อง) ก็อาจจะ เป็นจริงในอนาคต และก็รวมถึงกล้องที่พัฒนา ให้ถ่ายที่แสงน้อยได้ดีมากขึ้น

ราคาและวันเปิดตัว แน่นอน ว่าเดือนเดิม มีการคาดการณ์ว่า iPhone15Ultra จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในก.ย. 2023 และคาดว่า การผลิตน่าจะมากขึ้นแล้ว ส่วนราคาที่คาดว่า iPhone15 Ultra อาจจะเคาะที่ 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เนื่องจากว่าการเปลี่ยนแปลง ที่เยอะมาก และอาจจะมี รุ่นความจำ 2TB เป็นตัวท๊อปสุด ให้เลือกด้วยเหมือนกัน

ส่อง 8 คุณสมบัติใหม่ ที่คาดว่าจะมีใน iPhone 15

เหลือเวลาอีกเกือบจะ หนึ่งปีกว่า ที่เราจะได้ iPhone15 แบบใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (คาดว่าจะเปิดตัวในก.ย.ปี 2023) ขณะนี้เรากลับได้ยินข่าวลือ ทยอยหลุดออกมา ให้เห็นกันแล้ว ดูท่า ‌iPhone15‌ รุ่นใหม่จะได้รับ การอัปเดตที่โดดเด่นมากกว่า ที่เราได้เห็นใน iPhone 14 รวมถึงคุณสมบัติที่ผู้ใช้ iPhone หลายคนอยากได้ มานานหลายปี

วันนี้ได้นำข้อมูล ของคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะ ได้เห็นใน iPhone 14 Series ที่เรียบเรียงโดย MacRumors มาอัปเดตให้ได้อ่านกัน จะมีอะไรบ้าง ที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นก่อนการเปิดตัวรุ่นใหม่นี้

ครั้งแรกกับการมาของพอร์ต USB-C

ในปี 2023 อาจเป็นการสิ้นสุด ของการใส่ช่องเสียบ USB-C และจะมาแทน Lightning Port โดยก่อนหน้าที่ผ่านมาทั้ง Mac, iPad และ iPhone จะใช้ช่องแบบเดียวกัน

Apple ไม่ได้เปลี่ยนมาใช้ USB-C เพื่อทำให้ชีวิตของคุณสะดวกขึ้น อย่างแน่นอน แต่ว่ากำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากว่าสหภาพยุโรปกำลังเรียกร้อง iPhone ที่จัดจำหน่ายในยุโรป จะต้องมีพอร์ต USB-C ในปี 2024 ฉะนั้น Apple ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลง การออกแบบทั่วโลกหรือสร้าง iPhone พิเศษสำหรับยุโรปแค่นั้น?

อย่างไรก็ตามในข่าวที่ ออกมาก่อนหน้านี้ Apple ยืนยันว่าจะปฏิบัติตาม ข้อบังคับท้องถิ่น และก็ข่าวลือกล่าวว่า Apple จะทำการเปลี่ยนแปลงในปี 2023

มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงและเปิดปิดแบบสัมผัส (Solid State)

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ดังกล่าว เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า Apple อาจเพิ่มปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดแบบสัมผัส (Solid State) ให้กับ ‌iPhone15‌ แทนที่จะเป็นปุ่มจริง ซึ่งจะคล้ายกับแทร็คแพดบน Mac และปุ่มโฮมของ ‌iPhone‌ 7 การตอบสนอง แบบสัมผัสจะ เลียนแบบความรู้สึก ของการกดปุ่มบนปุ่มทึบ แทนที่การกดปุ่มแบบกลไก

การใช้ปุ่มสถานะ ของแข็งอาจป้องกันน้ำเข้าและอาจทำให้ Apple สามารถกันน้ำได้ดีขึ้น การใช้การตอบสนอง แบบสัมผัส สำหรับปุ่มจะมีผลให้ Apple ต้องเพิ่ม Taptic Engine รุ่นใหม่

ปรับมาใช้ Dynamic Island สำหรับทุกรุ่น

Apple เปิดตัว Dynamic Island สำหรับ iPhone 14 Pro และ Pro Max ในตอนที่รุ่น ‌iPhone 14‌ ที่ราคาน้อยกว่า ยังคงใช้รอยบาก ด้วย ‌iPhone15‌ รายการทั้งหมด

คาดว่าจะได้รับ ‌Dynamic Island‌ ทุกรุ่น ฉะนั้นหากคุณต้องการเข้าถึง ‌Dynamic Island‌ แต่ว่าไม่ต้องการซื้อรุ่นท็อป ให้เปลืองเงิน แนะนำให้รอ ‌iPhone15‌ ไปเลยดีกว่า

ขนาดเท่าเดิม ไม่เคยได้ยินข่าวลือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ที่โดดเด่นสำหรับ ‌iPhone15‌ ในตอนนี้ ดูท่าเราจะได้ขนาดเท่ากัน ‌iPhone15‌

และ 15 Pro จะมีขนาด 6.1 นิ้ว และ ‌iPhone15‌Plus และ Pro Max จะมีขนาด 6.7 นิ้ว ฉะนั้นขนาดของเครื่อง ก็เลยไม่แตกต่างจากเดิม

เทคโนโลยีเลนส์ซูมแบบ Optical (Periscope)

ได้ยินเกี่ยวกับงานของ Apple เกี่ยวกับเทคโนโลยีเลนส์ Periscope มาหลายปีแล้ว และก็ปี 2023 อาจเป็นปีที่มีการเปิดตัว เลนส์ Periscope ที่เน้นการซูมไกล และคมชัด ซึ่งผู้สร้างสมาร์ทโฟน Android บางรายใช้อยู่แล้ว มีความสามารถสำหรับการซูมแบบออปติคอล ที่เกินช่วงซูมที่มีใน เลนส์เทเลโฟโต้ แบบมาตรฐาน

ด้วยเลนส์ปริทรรศน์ Apple สามารถซูมออปติคอลได้ 5x หรือ 10x เพิ่มขึ้นจาก 3x ในรุ่น ‌iPhone 14 Pro‌ ปัจจุบันนี้

มากับชื่อที่อาจเปลี่ยนไปในบางรุ่น นั้นก็คือ iPhone15Ultra
Mark Gurman แห่ง Bloomberg บอกว่า Apple อาจแทนที่รุ่น “Pro Max” ของ ‌iPhone15‌ ด้วยรุ่น “Ultra” ระดับไฮเอนด์ใหม่ อย่าง iPhone15 Ultra นั่นจะสอดคล้องกับ Apple Watch Ultra

และก็อาจให้ข้ออ้างแก่ Apple สำหรับการจำกัดคุณสมบัติ บางอย่างสำหรับ ‌iPhone‌ ระดับบนสุด อย่างเช่น เทคโนโลยีเลนส์ปริทรรศน์

อีกด้านหนึ่ง อย่างนักวิเคราะห์ ‌Ming-Chi Kuo‌ ได้บอกว่าเลนส์ Periscope ของ iPhone อาจจะมีความสามารถเยอะ ขึ้นกว่าเดิม ทำให้สมกับการเป็นชื่อ Ultra เหมือนกัน

ชิปใหม่ขนาด 4 นาโนเมตร

ในรุ่น ‌iPhone15‌ Pro อาจเป็นมือถือรุ่นแรก ที่มีชิปที่ผลิตโดย สถาปัตยกรรมขนาด 3 นาโนเมตรจาก TSMC ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ Apple เทคโนโลยีชิป 3nm คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพ การประมวลผลได้ 10 ถึง 15% ในตอนที่ลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 30%

หาก Apple เลือกใช้ชิป A17 ที่มีขนาด 3 นาโนเมตรจริง ผลที่เกิดนั้น จะมีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าชิป A16 อย่างเห็นได้ชัด เฉพาะรุ่น Pro แค่นั้นที่มี A16 ซึ่งสร้างขึ้นจากกระบวนการ 4 นาโนเมตร

อย่างไรก็ตามก็คาดการณ์ว่าชิป A17 ถูกจำกัดที่ ‌iPhone15‌ Pro ในทำนองเดียวกัน รุ่นมาตรฐาน ‌iPhone15‌ อาจได้รับการ อัปเกรดเป็น A16 รุ่นก่อนหน้า

RAM เพิ่มขึ้นเยอะสะใจ

‌iPhone15‌ Pro บางทีอาจได้รับ RAM ขนาด 8GB เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมเพิ่มขึ้นจาก 6GB เพื่อรองรับความสามารถใหม่ อย่างเช่น เทคโนโลยีเลนส์กล้องซูมไกล แบบ Periscope เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสำหรับ iPhone15Series ยังคงต้องรอดูกันต่อไป ว่าทั้งนี้ จะมีข้อมูลอะไร อัปเดตเพิ่มอีก มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากว่ากว่าจะเปิดตัว ก็ต้องรอไปจนปี 2023 นี้

ขณะนี้เหล่าหนุ่มๆดินแดนมังกร มาขโมยหัวใจสาวๆ ให้ตกหลุมรักกัน ไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้น ก็คือ หลัวเจิ้ง (Luo Zheng) ดาราหนุ่มหล่อ ที่มีผลงานการแสดงให้แฟนคลับได้ติดตามกัน แบบไม่ให้พักหัวใจ หันสายตาไปหาใคร และ เขากำลังเริ่มจะมีผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ มาให้แฟนคลับได้ติดตามอีกแล้ว

สัมภาษณ์คุยกับดาราหนุ่มหล่อ หลัวเจิ้ง

พระเอกหนุ่มฮอต ที่มาขโมยหัวใจสาวๆ ที่คราวนี้มาในมาดใหม่เป็นหนุ่มหล่อสายฮา ในผลงานซีรีส์เรื่อง รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง (Perfect Mismatch) ซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างท่านประธานจอมหยิ่ง และ พนักงานสาวสุดแสนธรรมดา เกิดเป็นความรักระหว่างประธาน และ ลูกน้อง

แบบทั้งจิ้น ฟิน ฮา ที่รอคอยให้คุณพิสูจน์ทาง iQIYI พวกเราจะพาทุกคนไปคุยกับหนุ่ม หลัวเจิ้ง ในบรรยากาสสุดกันเอง จะเป็นยังไงบ้างนั้น มาติดตามจากบทสัมภาษณ์นี้กันเลย!

Perfect Mismatch (รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร มีความพิเศษอย่างไร กล่าวถึงเรื่องราว และ นักแสดงของคุณในเรื่องนี้หน่อย

หลัวเจิ้งซีรีส์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวความรัก ที่คาแรกเตอร์พระเอก ภายนอกจะดูเย่อหยิ่งๆครับ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ข้างในเป็นคนใจดีครับ ทำงานเก่ง เก่งในเรื่องของงานมาก แต่ว่าในเรื่องความรัก กลับไปไม่เป็นซะเลยครับ คาแรกเตอร์ จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีความคอเมดี้ เป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่น่าติดตามครับ

ผลงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของคุณ ส่วนมากจะรับบทบาทเป็นหนุ่มมาดนิ่ง มาดขรึม แต่ว่าในเรื่องนี้ คุณฉีกบทบาท ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เป็นแนวคอเมดี้สายฮาเลย บทบาทนี้ ท้าทายคุณมากน้อยแค่ไหน

หลัวเจิ้งสำหรับเรื่องนี้ ท้าทายค่อนข้างมากเลยครับ เนื่องจากว่า ต่างจากซีรีส์เรื่องก่อนๆ ที่เคยเล่นมา คาแรกเตอร์ค่อนข้างจะฉีกแนวไปจากเดิม ผมเลยต้องไปเรียนรู้ เพื่อสร้างตัวละครนี้ออกมาครับ ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเลย อยากที่จะให้ชมกันนะครับ

การรับบทบาทเป็นประธานโจวจื่อเฝ่ย มีความใกล้เคียงกับตัวจริงของคุณมากน้อยแค่ไหน อะไรที่เหมือน และ ต่างจากตัวจริงของคุณ

หลัวเจิ้งคาแรกเตอร์ตัวละครนี้ ไม่ค่อยมีความใกล้เคียงตัวผมเลยครับ โจวจื่อเฝ่ย เขาจะมีความตลกขบขันครับ ตรงจุดนี้ ผมก็มีความใกล้เคียงอยู่นิดนึงนะครับ โจวจื่อเฝ่ย เวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน เขาจะตลก ผมก็เป็นเหมือนกันครับ สิ่งนี้ที่น่าจะเป็นจุดที่เหมือนกันกับตัวละครนะครับ (ยิ้ม)

แน่นอนว่า แฟนคลับหลงรักเสน่ห์ของคุณ อยากที่จะให้คุณลองบอกเสน่ห์ของตนเองสัก 3 ข้อหน่อย

หลัวเจิ้งจริงใจ, กล้าหาญ และก็ ใจดี ครับ

คุณเล่นเป็นประธานบริษัทมาหลายเรื่อง ในชีวิตจริงอยากเป็นประธานบริษัทอะไร

หลัวเจิ้งสามารถเป็นไปได้ทุกประธานบริษัทเลยครับ (หัวเราะ) อยู่ที่บริษัทไหนอยากที่จะให้ผมเป็นประธานบริษัท ผมเป็นได้หมดเลยครับ

อยากที่จะให้คุณให้คะแนนความยาก ในแต่ละตัวละครที่เคยได้รับ (3 ตัวละคร)

หลัวเจิ้งความยาก กู้เหยียนลั่ว (ยิ้มให้รักจากหัวใจ) 8 คะแนนครับ, กู้ซีเฉิง (ถึงคิวรักยัยบล็อกเกอร์) ได้ 8 คะแนนเหมือนกันในความยาก แต่ว่าบทของ โจวจื่อเฝ่ย (รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง) ให้ความยาก อยู่ที่ 9 คะแนนครับ

คุณได้ฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อซีรีส์นางเอกฝาแฝด” เนื่องจากว่า คุณเคยรับบทบาท ที่มีนางเอกเป็นฝาแฝดถึง 3 เรื่อง รู้สึกอย่างไรบ้าง กับฉายานี้

หลัวเจิ้ง:ผมคิดว่า น่าจะเป็นเหมือนพรหมลิขิตนะครับ ที่ทำให้ผมได้มารับบทบาท ที่นางเอกเป็นฝาแฝดทั้งนั้นเลย

คุณหลัวเจิ้งอยากลองเล่นบทบาทฝาแฝดบ้างหรือเปล่า และ อยากออกแบบคาแรกเตอร์ฝาแฝดเป็นอย่างไรกันบ้าง

หลัวเจิ้ง: จริงๆผมก็คิดนะว่า อยากเล่นบทฝาแฝดดูบ้าง ถ้าผมจะเล่นหรอ คงอยากที่จะให้ฝาแฝด มีความต่างกัน อยากที่จะให้พี่ชาย มีความคูลๆหน่อย ส่วนน้องชายอยากที่จะให้ ดูน่ารักนะครับ จะได้แยกสองคาแรกเตอร์ ออกได้ชัดเจน

อย่างที่ได้เห็นกันผลงานหลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ส่วนมากคุณรับบทเป็นท่านประธาน ในอนาคต คุณมีบทบาทที่อยากแสดงหรือไม่ อยากรับบทบาทแบบไหน

หลัวเจิ้งอยากลองเล่นบทเป็นตัวร้ายนะครับ แบบร้ายสุดๆไปเลยนะครับ เนื่องจากว่า เป็นบทบาทที่ผมไม่เคยได้ลองเล่นเลย อยากลองท้าทายตัวเองมากขึ้นนะครับ

คุณหลัวเจิ้งคิดว่า การเดินทางบนเส้นทางการเป็นดาราของคุณ เข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว กำหนดจุดมุ่งหมายในวงการอย่างไรบ้าง

หลัวเจิ้งถ้าเกิดถามว่า เข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้แค่ไหนแล้ว คงจะ 50% แล้วนะครับ ก็ครึ่งทางแล้วนะครับ ผมชอบเส้นทางการเป็นดาราตอนนี้มากๆ ในอนาคต ผมจะตั้งใจทำงานในเส้นทางนี้ให้ดีที่สุดนะครับ

อยากเพิ่มคำถามสนุกๆว่า เคยดูละครไทยบ้างไหม เรื่องอะไร รู้จักดาราไทย บ้างหรือเปล่า

หลัวเจิ้งจริงๆ ผมไม่ค่อยได้ดูซีรีส์ไทยเท่าไรนะครับ แต่ว่าช่วงปี 2019 ผมเคยดูซีรีส์ไทยเรื่องนึง ที่ตัวพระเอกเป็นประธานบริษัท จะมีลุคเย่อหยิ่งๆนิดนึงเหมือนกัน ก็ได้ดู เพื่อเรียนรู้บทบาทตัวละครของเขา มาช่วยการแสดงของผม ชอบมากเลยครับ แต่ว่าผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร (รู้จักดาราไทยไหมคะ) ลิซ่า ครับ (หัวเราะ)

อยากมาเจอแฟนๆชาวไทยหรือไม่ มีอะไรอยากฝากถึงแฟนคลับชาวไทยบ้าง

หลัวเจิ้ง:อยากที่จะให้แฟนคลับชาวไทยรักษาตัวดีๆ และจากนั้นก็ รอคอยวันที่พวกเราจะได้เจอกันนะครับ

หากใคร ที่โดนตกจนกระทั่งหัวใจสั่นอย่างจังแล้วล่ะก็ อย่าลืมไปติดตามซีรีส์ รักเกินต้าน ประธานจอมหยิ่ง (Perfect Mismatch) ผลงานเรื่องล่าสุดของหลัวเจิ้ง ได้ทาง iQIYI

NCT 127 แม้ว่าจะไม่ใช่คราวแรกที่พวกเราได้มองเห็นปรากฎการณ์บัตรคอนเสิร์ตของนักแสดง โดยเฉพาะนักแสดงต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักมากขายบัตรคอนเสิร์ตในอิมแพ็ค อารีน่าหมดเกลี้ยงกว่า 35,000 ใบภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่นาที

แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ แล้วก็ NCT 127 คือหนึ่งในนั้น

จะต้องเห็นด้วยว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นคนชอบฟังเพลง K-POP บางครั้งก็อาจจะไม่ได้คุ้นชื่อของ NCT127 เท่าไรนัก

หรืออย่างน้อยที่สุดบางครั้งก็อาจจะเคยรับรู้มาบ้างจากการเป็นวงบอยกรุ๊ปจากค่ายดัง SM Entertainment ค่ายเดียวกับ TVXQ!, Super Junior, Girls’ Generation, SHINee, f(x) แล้วก็ EXO แต่ว่าสิ่งที่จำได้ก็มีแค่ชื่อวงว่า NCT และไม่รู้เรื่องว่ามีการแบ่งยูนิตย่อยที่บางครั้งก็อาจจะฟังดูน่าปวดหัวไปบ้างในยามที่ได้ยินคราวแรก

แต่ว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา NCT127 สั่งสมประสบการณ์แล้วก็ผลงานมากมาย จนกระทั่งทำให้วงขยายกลุ่มแฟนเพลงได้มากขึ้น

แม้ว่าจะมีโควิด-19 เป็นปัญหา แต่ว่าพวกเขาก็ยังบรรลุผลสำเร็จกับการผลงานต่าง ๆ ที่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ

แล้วก็กลับมาทัวร์คอนเสิร์ตระดับเวิลด์ทัวร์อีกครั้ง พร้อมประกาศศักดาบัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยงใน 3 รอบภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่นาที

กับสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่างอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แถมความต้องการบัตรยังมีอีกมากถึงขั้น แฮชแท็กของงานมีแต่ว่าคนตามหาบัตรกันจนกระทั่งนาทีสุดท้าย แล้วก็ราคาบัตรขายต่อพุ่งสูงถึงหลักหมื่น

นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า หลาย ๆ คนในประเทศไทยเริ่มรู้จัก NCT127 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจริง ๆ

คอนเสิร์ต NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ จัดขึ้นถึง 3 รอบในวันที่ 3-5 ธ.ค. 2022 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

จัดโดย SM True สมาชิก NCT127 กลับมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกครั้งจากทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในปี 2019 กับ NCT127 WORLD TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – The Origin’ ครั้งนี้

จึงเป็นคอนเสิร์ตคราวแรกในรอบ 3 ปี 6 เดือน ช่วงที่หายไปพวกเขาปล่อยอัลบั้มใหม่ออกมาถึง 3 อัลบั้ม อีกทั้ง NCT #127 Neo Zone, Sticker แล้วก็ 2 Baddies จึงทำให้คอนเสิร์ตนี้อัดแน่นไปด้วยเพลงกว่า 34 เพลง ในเวลา 3 ชั่วโมง

คอนเสิร์ตแบ่งออกเป็นช่วง ๆ ช่วงเปิดตัวเรียกอะดรีนาลีนให้กับแฟนคลับด้วยเพลงสร้างชื่อของวงอย่าง “Kick It” จากอัลบั้ม NCT #127 Neo Zone ต่อด้วย “Lemonade” เพลงจากอัลบั้ม Sticker แล้วก็ “Cherry Bomb” จากมินิอัลบั้ม NCT #127 CHERRY BOMB เต้นรัว ๆ หนัก ๆ แบบ non-stop

ก่อนที่จะคั่นด้วยการพูดทักทายแฟนคลับเป็นภาษาไทยเพื่อเข้าสู่ช่วงต่อไปที่เป็นเซ็ตเพลงสนุก ๆ สบาย ๆ โยกตามง่าย ๆ อย่าง “Elevator (127F)”, “Dreamer” แล้วก็ “Love Song” ที่สองเพลงหลังตัดมาครึ่งเพลงพอหอมปากหอมคอ

เว้นเสียแต่เพลงในอัลบั้มตามปกติแล้ว คอนเสิร์ตของ NCT127 ในครั้งนี้มีการแสดงเดี่ยวของแต่ละคนด้วย  คนแรกเปิดด้วยพี่ใหญ่ของวง แทอิล (TAEIL) กับเพลง “Another World” เพลงในมินิอัลบั้มแรกของวงที่แทอิลชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เขาเอามารีมิกซ์ใหม่ในสไตล์ของเขาเอง ก่อนที่จะเข้าสู่อีกเพลง “Love Sign” เพลงใหม่แนวอาร์แอนด์บีน่าหลงใหลที่แทอิลรับบทบาทนักร้องแล้วก็เป็นมือคีย์บอร์ดให้กับสมาชิกน้องเล็ก แฮชาน (HAECHAN)

ที่รับบทบาทนักร้องแล้วก็แดนเซอร์, มาร์ค (MARK) แร็ปเปอร์ของวง มากับเพลงแร็ปใหม่เดือด ๆ “Vibration”, แทยง (TAEYONG) หัวหน้าวงกับเพลงกลิ่นอายร็อคสตาร์ “Moonlight”, จองอู (JUNGWOO) ที่เลือกแสดงด้านน่าหลงใหลให้แฟนคลับได้ชมกัน

กับการแสดง เต้นเดี่ยวในเพลง “Lipstick” เพลงจาก LOVEHOLIC มินิอัลบั้มเพลงภาษาญี่ปุ่น, จอห์นนี่ (JOHNNY) กับการเต้น แสดงความแข็งแรง ของกล้ามพร้อม ถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็ค ในฉากที่จำลอง เป็นห้องอาบน้ำ ระหว่างเพลง “Focus”, แจฮยอน (JAEHYUN) มากับเพลงอาร์แอนด์บีช้า ๆ อย่าง “Lost”, โดยอง (DOYOUNG) หยิบเอาเพลง “Favorite” จากอัลบั้ม Favorite – The 3rd Album Repackage ที่เขาชื่นชอบมา rearrange ใหม่

เป็นแนวบัลลาดในชื่อเพลง “The Reason Why It’s Favorite” แล้วก็ ยูตะ (YUTA) อีกทั้งร้องอีกทั้งเต้นในเพลงป็อปจังหวะช้าเร่งเร็วพร้อมเสียงอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงปลายกับ “Butterfly” เพลงใหม่ที่ยูตะเลิกเสื้อให้เห็นรอยสักผีเสื้อที่หน้าท้องทางซ้ายของเขาด้วย

เพลงเดี่ยวของทุกคนถูกแทรกคั่นกลางระหว่างเพลงอื่น ๆ ที่ mood & tone ใกล้เคียงกัน แล้วก็เว้นเสียแต่เพลงเดี่ยวแล้ว
ก็ยังมีเพลงแยกยูนิตอย่างยูนิตแร็ป มาร์ค แทยง กับ “The Himalayas” แล้วก็ “Run Back 2 U + BASSBOT”

เป็นการแสดงของยูนิตเต้น จอห์นนี่ แทยง ยูตะ แจฮยอน รวมทั้งเพลงของยูนิตโวคอล แทอิล โดยอง แจฮยอน จองอู แล้วก็ แฮชาน ในเพลง “The Rainy Night”

กว่า 3 ชั่วโมงครบทุกรสทุกชาติตั้งแต่เต้นหนัก ๆ

ในเพลง “Highway to Heaven”, “Favorite (Vampire)”, “Regular”, “Love On The Floor”, “Sticker”, “Faster” แล้วก็ “2 Baddies”

เพลงสนุก ๆ อย่าง “Paradise”, “TOUCH”, “Love Me Now” ไปจนกระทั่งเพลงโชว์พลังเสียงเน้น ๆ อย่าง “White Night” แล้วก็ “Back 2 U” สมาชิกอีกทั้ง 9 คนผลัดกันเต้นผลัดกันร้องกันอย่างเต็มเปี่ยม แรงดีไม่มีตก พาร์ทเต้นไม่พลาด พาร์ทร้องก็ทำได้ดีจนกระทั่งขนลุก

จบท้ายกับจดหมายถึงแฟนคลับพร้อมเพลงน่ารัก ๆ อย่าง “Dreams Come True” แล้วก็วิ่งไปหาแฟนคลับทั่วเวทีในเพลง “Promise You” เป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าจะกลับมาหาแฟนคลับคนประเทศไทยอีกครั้งแน่นอน

สมาชิกแต่ละคนดึงความสามารถแล้วก็ศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างดี

แม้ว่าจะโฟกัสที่การแสดงเพอร์ฟอร์มานซ์สุด ๆ แต่ว่าก็ไม่ลืมที่จะสนุกไปกับคอนเสิร์ตอยู่ตลอด ช่วงที่อินกับการแสดงก็เข้าถึงอารมณ์ ช่วงที่เอนเตอร์เทนแฟนคลับก็เบิกบานวิ่งไปทั่วเวทีเป็นคอนเสิร์ตเน้นPerformanceที่เป็นมาตรฐานของการแสดงสดที่ยอดเยี่ยมอีกทั้งร้อง เต้น เอนเตอร์เทน แม้การแสดงเดี่ยวจะสูงถึง 9 โชว์ตามจำนวนสมาชิก

ความลื่นไหลของแต่ละโชว์บางครั้งก็อาจจะมา ๆ หาย ๆ แล้วก็การ rearrange เพลงใหม่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีไม่เท่าไรนัก ระบบเสียงไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เสียงเบสดังเหลือเกินในบางเพลง เสียงร้องหลายช่วงก็ได้ยินไม่ค่อยชัด รวมทั้งสำหรับในการแสดงรอบแรกวันที่ 3 ธ.ค. มีเหตุไฟสปอตไลท์ติดขัดจนกระทั่งทำให้จะต้องหยุดโชว์กลางคันตั้งแต่เพลงที่ 2 แต่ว่าก็ยังเป็นโชว์ที่ดูสนุก ครบรส คุ้ม แล้วก็สมกับที่แฟนคลับคนประเทศไทยรอคอยมานานมาก

เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ NCT127 ว่าเป็นวงที่เด่นแล้วก็การันตีคุณภาพของPerformanceได้อยู่เสมอ
พิสูจน์ได้จากเสียงร้องเพลงแล้วก็เสียงกรี๊ดดังลั่นจนกระทั่งหูชาของแฟนคลับตลอดทั้ง 3 วัน จนกระทั่งศิลปินยิ้มแก้มปริชมไม่ขาดปาก

สมาชิก NCT127 ทิ้งท้ายไว้ว่าจะกลับมาแฟนคลับคนประเทศไทยกันอีกแน่ ๆ
ก็หวังว่าในคราวต่อไปจะได้สถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่มากยิ่งกว่านี้ เพื่อให้แฟนคลับทุกคนได้ชมศิลปินที่พวกเขารักกันได้อย่างทั่วกัน

ตัดแต้ม ใบขับขี่ ตั้งแต่ 1-4 คะแนน เช็กกันเลย ทำผิดแต่ละข้อหาโดนตัดกี่คะแนน พร้อมกับแนะวิธีคืนคะแนน-เช็กสถานะ ช่องทางในการจ่ายค่าปรับจราจร

ตัดแต้ม ใบขับขี่

จากในกรณี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชาสัมพันธ์ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือ ตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร เป้าหมายเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566

โดยกำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติทั้งหมด 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม ถ้าหากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

สำหรับการตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด ถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที แบ่งเป็น 4 ระดับ เช่น

แบบที่ 1 “ตัดคะแนนทันทีที่ทำผิด”

ตัด 1 คะแนน

ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
ไม่สวมหมวกนิรภัย
ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย
ขับรถเร็วเกินกำหนด
ขับรถบนทางเท้า
ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
ไม่หลบรถฉุกเฉิน
ขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว
ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลง ปิดบัง
ไม่ติดป้ายภาษี

ตัด 2 คะแนน

ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร
ขับรถย้อนศร
ขับรถระหว่างโดนพักใช้ หรือเพิกถอนใบขับขี่

ตัด 3 คะแนน

ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
ขับรถผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา
ขับรถชนแล้วหนี

ตัด 4 คะแนน

เมาแล้วขับ
ขับรถในขณะเสพยาเสพติด
แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

แบบที่ 2 “ตัดคะแนนเมื่อไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง” ค้างชำระ 1 ใบสั่ง ตัด 1 คะแนน
ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง
จอดในที่ห้ามจอด
ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ
ขับรถไม่ชิดซ้าย

ถ้าหากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือแค่เพียง 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภทเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่ง ถ้าหากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ ใบอนุญาตขับขี่ อีกเป็นครั้งที่ 4 จะต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

สามารถ ตรวจสอบ คะแนนใบสั่ง ได้ที่เว็บ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถ ชำระค่าปรับ ได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง

เรื่องต้องรู้ ก่อนเริ่มใช้ระบบ ตัดแต้ม ใบขับขี่

สำหรับผู้ขับขี่ จะมีคะแนนคนละ 12 คะแนน ถ้าหากถูกตัดจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพัก ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน ถ้าหากฝ่าฝืนขับขี่ขณะถูกสั่งพักจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกเหนือจากนี้ ถ้าหากถูกสั่งพักใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจถูกสั่งพักมากกว่า 90 วัน และถ้าหากถูกสั่งพักเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภท

คะแนนถูกตัด คืนคะแนนได้

ส่วนของการคืนคะแนนจะมี 2 รูปแบบ คือ เมื่อครบ 1 ปีได้คืนอัตโนมัติ เมื่อเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกที่จัดปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนนได้ กรณีคะแนนเหลือ 0 จนถูกสั่งพักใบขับขี่ 90 วัน ถ้าหากเข้าร่วมการอบรม จะไดคืน 12 คะแนนทันที เริ่ม 9 มกราคม 2566 ใช้ระบบตัดแต้มใบขับขี่ เช็กเกณฑ์ถูกหักคะแนน

ตัดแต้มใบขับขี่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า

ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถกำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 เป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่ง กำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติ 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม ถ้าหากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

ประกอบไปด้วย 1.ตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด ถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที แบ่งเป็น 4 ระดับ อาทิ ตัด 1 คะแนนเมื่อทำผิดฐานขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตัด 2 คะแนน เมื่อฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ตัด 3 คะแนน เมื่อขับรถชนแล้วหนี ตัด 4 คะแนน เมื่อขับรถขณะเมาสุรา ขับรถในขณะเสพยาเสพติด แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ความผิดที่กฎหมายกำหนดให้ออกใบสั่ง 42 ฐานความผิด จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น อาทิ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ วิธีการตัดคะแนนดำเนินการโดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า

ถ้าหากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภทเป็นเวลา 90 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่ง ถ้าหากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน ถ้าหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 ต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

“คะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ละครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่แต่ได้รับเพียง 8 คะแนน หากขอเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกเมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะได้รับคืนทั้งหมด 12 คะแนน สามารถตรวจสอบคะแนนใบสั่งได้ที่เว็บไซต์ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถชำระค่าปรับได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

Cr. ภาพที่ 3-6  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นาทีนี้ถ้าหากต้องพูดถึงดารา หน้าใหม่ ดาวรุ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งแล้วนั้น นักแสดง มุนซังมิน คงจะเป็นหนึ่งในรายชื่อ ที่ต้องถูกนึกถึงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าจาก บทบาท องค์ชายซองนัม ในซีรีส์ Under The Queen’s Umbrella

ที่เขาได้แสดงนั้น นอกเหนือจากการที่จะได้รับความรัก อย่างล้นหลาม จากทักษะ การแสดงของเจ้าตัวที่สุดยอดแล้วนั้น แต่รูปร่างและหน้าตาที่โดดเด่นออกมาท่ามกลางนักแสดงมากมาย ก็ได้รับความสนใจจากแบรนด์สินค้าไปได้ไม่น้อย กระทั่งปัจจุบัน Moon Sang Min ได้รับข้อเสนองาน โฆษณามากยิ่งกว่า 20 แบรนด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังจากความดังของ มุนซังมิน

ที่เริ่มถูกกล่าวถึงในวงกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาต่าง ๆ ดูครึกครื้นยิ่งขึ้น

กระทั่งปัจจุบันได้มีแบรนด์เครื่องสำอางคัดเลือกนักแสดง Moon Sang Min เป็นนายแบบหลักของแบรนด์ เพราะเหตุว่าทางแบรนด์เครื่องสำอาง มักเติบโตขึ้นจากการผลักดันและส่งเสริมของคนซื้อที่อยู่ในช่วงอายุ 18-34 ปี

ฉะนั้นทางแบรนด์จึงตั้งมั่นทำกลยุทธ์เพื่อสร้างการรับรู้และเพื่อเพิ่มความน่าวางใจของแบรนด์ ด้วยการคว้าตัวนักแสดงดาวรุ่งอย่าง Moon Sang Min มาส่งเสริมกลยุทธ์นั้นนั่นเอง

โดยจากการรายงานปัจจุบัน ทางด้านของ Awesome Entertainment สังกัดของ มุนซังมิน กำลังอยู่ในช่วงคุยปรึกษาขอคำแนะนำเกี่ยวกับความร่วมแรงร่วมมือกับบริษัทและแบรนด์สินค้ากว่า 20 สาขา

ที่หลากหลาย และคาดว่างานในครั้งนี้จะสามารถส่งเสริมกิจกรรมในตลาดออนไลน์และออฟไลน์ได้ต่อไป ซึ่งทางด้านสังกัดของMoon Sang Min ก็ได้ออกมาเผยผ่านสื่อว่า “ขณะนี้เรากำลังได้รับความรักจากแบรนด์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์แฟชั่น ร้านค้าออนไลน์ เกม เบเกอร์รี่ แบรนด์นาฬิกา และธุรกิจด้านการศึกษา

ซึ่งจากความสนใจที่ได้รับอย่างท่วมท้นนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะบทบาทที่ มุนซังมิน ได้รับในซีรีส์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเพราะหน้าตาอันบริสุทธิ์และสไตล์ฮิป ๆ ของเขาด้วยเช่นกัน” และแน่ ๆ ว่าอนาคตของ Moon Sang Min ที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นไอคอนหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมข้างต้น จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งตอนนี้

มุนซังมิน เริ่มเดบิวต์เป็นนักแสดงแบบเต็มตัวเมื่อปี 2019 ก่อนหน้านี้ ผ่านเว็บดราม่าจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น 4 Reason Why I Hate X-Mas (2019), The Colors of Our Time (2020) และ The Mermaid Prince: The Beginning (2020) กระทั่งเขาได้พัฒนา ความสามารถด้านการแสดงมา เรื่อยและ

เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น ผ่านซีรีส์ My Name (2021) ก่อนที่จะในปีนี้เขาจะก้าวกระโดด ขึ้นมารับบทบาทนำเป็น ครั้งแรก ในซีรีส์ Under The Queen’s Umbrella (2022) และได้รับความรัก อย่างล้นหลาม กระทั่งผลงานนี้ นับเป็น อีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของเขาเลยก็ว่าได้

เปิดวาร์ป มุนซังมิน หนุ่มหล่อน้องใหม่ หน้าใสชวนใจละลาย

Moon Sang Min เกิดตอนวันที่ 14 ม.ย. ปี 2000 ในช่วงเวลานี้อายุ 22 ปี กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยซองคยองควาน (Sungkyunkwan University) สาขาการแสดงและศิลปะ (Acting and Arts Department) อีกทั้งเขายังได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยด้วย

เดี๋ยวนี้ซังมินเป็นนายแบบและนักแสดงภายใต้สังกัด Awesome Entertainment ร่วมกับนักแสดงชื่อดังอย่าง พัค ซอจุน และ อี ฮยอนอู อีกด้วย

ซังมินเข้าแวดวงในปี 2018 ตอนที่อายุได้ 18 ปี โดยเปิดฉากด้วยการเดินแบบให้กับคอลเล็คชั่น Fall/Winter ของแบรนด์ Caruso ตามมาด้วยคอลเล็คชั่น Fall/Winter ของแบรนด์ Sewing Boundaries ต่อจากนั้นในปี 2019 เขาก็แสดงตัวผ่านหน้าจอเป็นครั้งแรกในรายการเรียลลิตี้โชว์ Real High Romance 2

ก่อนที่จะได้ฝากผลงานการแสดงเรื่องแรกในชีวิต คือ เว็บดราม่าเรื่อง 4 Reasons Why I Hate Christmas ซึ่งจัดว่าสอบได้เลยทีเดียว

ในปี 2020 ซังมินมีผลงานการแสดงสม่ำเสมอถึง 2 เรื่อง ซึ่งก็คือซีรีส์เรื่อง The Colors of Our Time และเรื่อง The Mermaid Prince: The Beginning
ซึ่งเรื่องนี้เขาได้อวดหุ่นเท่ ๆ ด้วย เพราะว่ารับบทบาทเป็นนักว่ายน้ำนั่นเอง ทั้งสองเรื่องเรียกได้ว่ากวาดเรตติ้งไปไม่น้อย

ประกอบกับหน้าหวาน ๆ ไหล่กว้าง รูปร่างสูงของซังมิน เลยทำให้เขาแปลงเป็นหนุ่มดอกไม้ที่คว้าหัวใจสาว ๆ ไปได้มากมายเลยทีเดียว ในปี 2021 ก่อนหน้านี้ มุน ซังมิน ก็ได้ร่วมแสดงในซีรีส์สายดาร์กอย่างเรื่อง My Name

ร่วมกับนักแสดงดังจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ฮัน โซฮี, อัน โบฮยอน, พัค ฮีซุน และอีกเยอะแยะ
โดยเขารับบทบาทเป็น ‘โก กอนพยอง ตำรวจน้องเล็กในทีมปราบยาเสพติด ที่ถึงจะไม่มีบทบาทมากสักเท่าไรนัก แต่ออกมาแต่ละทีก็ทำเอาใจละลาย และดึงดูดสายตาของแฟน ๆ มากมายเลยทีเดียว ที่สำคัญคือซีรีส์เรื่องนี้เรตติ้งดีเยี่ยม กระทั่งทำให้ มุน ซังมิน ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

และสำหรับในปี 2022 นี้ หนุ่มดอกไม้คนนี้

เขาก็มีซีรีส์คอยจ่อคิวลงจอให้ได้รับชมกันถึง 2 เรื่อง คือ Duty After School และ Under The Queen’s Umbrella ซึ่งในเรื่อง Under The Queen’s Umbrella นี้เขาได้รับบทนำด้วย แต่เท่าที่เห็นผลงานต้องบอกเลยว่า หนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา

ไลฟ์สไตล์ของ มุน ซังมิน

ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ของเขานั้น หนุ่มคนนี้น่าจะไม่ถนัดเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า แต่ชอบถ่ายรูปตัวเองผ่านกระจก ซึ่งก็น่ารักน่าเอ็นดูไปอีกแบบ

นอกจากนั้นเขายังชอบถ่ายรูปวิวและฟ้าสีสวย ๆ มาลงในอินสตาแกรมให้แฟน ๆ ได้ดูกันอีกด้วย